มาลองดูกันว่าบทสรุปของการรับเสด็จซาเรวิชครั้งนั้นเป็นอย่างไร
ตามรายงานของนาย อา.แอ็ม. วืยวอดเซฟ กงสุลใหญ่รัสเซียประจำสิงคโปร์ถึงกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียลงวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1891 เขียนไว้ว่า”…สิ่งที่ได้รับจากการเสด็จฯ ทั้งจากองค์พระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ เหล่าขุนนางและประชาชนทั้งมวล ล้วนเป็นไปด้วยความจริงใจและอบอุ่นยิ่ง
ทุกคนได้แสดงออกซึ่งความจงรักภักดีและความสนใจที่จะได้ใกล้ชิดมกุฎราชกุมารแห่งรัสเซีย นับว่าเป็นครั้งแรกที่สยามได้รับเสด็จพระราชอาคันตุกะชั้นสูงที่ทรงเป็นผู้แทนรัฐบาลประเทศมหาอำนาจที่สยามเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าจะช่วยถ่วงดุลอำนาจระหว่างเพื่อนบ้านที่รายล้อมสยาม ซึ่งคอยเฝ้ามองชาวสยามด้วยความสนใจมานานแล้ว และคอยข่มขู่ด้วยความกระหายที่จะพิชิตและครอบครองสยาม”
“…มกุฎราชกุมารแห่งรัสเซียทรงแสดงความเห็นหลายครั้งว่า เป็นความประทับใจที่สุดเท่าที่ทรงเคยได้รับ และทรงสะดวกสบายอย่างเปี่ยมล้น พระมหากษัตริย์สยามทรงมีพระราชประสงค์ที่แท้จริงที่จะให้พระราชอาคันตุกะทรงลำบากพระทัยน้อยที่สุด…
…ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าการเสด็จพระราชดำเนินเยือนของมกุฎราชกุมารแห่งรัสเซียในครั้งนี้ได้สร้างความประทับใจแก่ทุกคนเป็นอย่างยิ่ง เพราะพระองค์มีพระเมตตากรุณา และมีพระราชอัธยาศัยดีทำให้เป็นที่รักของทุกคนในราชสำนักสยาม…
…ประวัติศาสตร์ของสยามช่วงนี้มีเหตุการณ์ที่ทรงคุณค่าและน่าประทับใจมากมาย ซึ่งไม่เป็นที่พอใจของชาวอังกฤษเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากประเทศอังกฤษพยายามที่จะให้อิทธิพลของประเทศอื่นๆ ในตะวันออกหมดไป…”
ส่วนบันทึกของเจ้าชายอุคทอมสกี้ให้ทัศนะเกี่ยวกับสยามไว้ว่า
“…การที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเทศสยามและความเป็นไปในประเทศที่กล้าหาญนี้ ควรจะใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบที่สุด การจดลงไปก็ควรแต่เฉพาะความเป็นจริงที่เกิดความยุติธรรมสำหรับคนที่นี่ ซึ่งชาวยุโรปรู้กันน้อยมากหรือไม่รู้เลย…
…สิ่งเดียวที่พวกฝรั่งเศสทำผิดพลาดก็คือ การเริ่มต้นกับสยามแบบไม่เป็นมิตรเท่าไหรนัก แต่ก็ยังไม่สายเกินไป เราคงพอที่จะแก้ไขได้ ถ้าฝรั่งเศสเคยชนะใจสมเด็จพระนโรดม พระเจ้าแผ่นดินเขมรมาแล้ว โดยยอมให้พระองค์ได้สวมมงกุฎเป็นกษัตริย์ตามที่พระองค์ทรงต้องการ ฝรั่งเศสก็ควรจะทำใจโดยปล่อยให้สยามธำรงไว้ซึ่งอธิปไตย และควรหยุดรุกรานชายแดนของสยามแต่โดยดี…
…ข้าพเจ้าเห็นว่าถึงเวลาที่รัสเซียต้องมองสิ่งต่างๆ ในทัศนะที่แตกต่างออกไปบ้าง แล้วหันมาสนใจประเทศทางตะวันออกมากขึ้น โดยทำให้เห็นว่าการศึกษาเกี่ยวกับดินแดนแถบนี้เป็นสิ่งสำคัญและมีความจำเป็น..”
สำหรับของที่ระลึกที่สยามมอบให้รัสเซีย ได้แก่พระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 และพระพันปี งาช้าง พระแสงขรรค์ต่างๆ เชิงเทียนโลหะเป็นรูปนกยืน ฐานแกะลวดลายตราแผ่นดินรัสเซีย เหรียญเคลือบดินเผา ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีสัตว์ต่างๆ เช่น ลูกช้างน้อย 2 เชือก ลูกเสือดำ 2 ตัว ลิงเผือก 2 ตัว รวมทั้งนกต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก
ที่สำคัญที่สุดคือ ความประทับใจของฝั่งรัสเซีย
แต่ความคาดหวังที่จะให้รัสเซียช่วยถ่วงดุลกับมหาอำนาจอย่างอังกฤษและฝรั่งเศสกลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด
สองปีต่อมาเกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436)
สยามเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงและเสียเงินฝรั่งเศสอีก 3 ล้านฟรังค์
รัชกาลที่ 5 กินไม่ได้ นอนไม่หลับ จนล้มประชวร
ตอนนั้นสยามขอความช่วยเหลือรัสเซียหรือไม่ ตอนนั้นรัสเซียมีปฏิกิริยาอย่างไร แล้วหลังจากนั้น การเสด็จประพาสรัสเซียของรัชกาล มีความหมายอย่างไร ท่านเสด็จพระราชดำเนินไปไหนในรัสเซียบ้าง
จะค่อยๆ ทยอยเล่าให้ฟังต่อไปนะคะ
ป.ล. ภาพ คือ เจ้าชายอุคทอมสกี้ (Prince Esper Esperovich Ukhtomsky)
ผู้จดบันทึกการเดินทางของซาเรวิชขณะอยู่ที่สยาม
สำหรับผู้สนใจเรื่องการเดินทางของซาเรวิชในสยามสามารถตามหาอ่านได้จากหนังสือเรื่อง “เบื้องหลังการเยือนกรุงสยาม ของ มกุฏราชกุมารรัสเซีย มิติการใหม่สมัยรัชกาลที่ 5” ของคุณไกรฤกษ์ นานา และ หนังสือ “100 ปี ความสัมพันธ์ สยาม – รัสเซีย” เพิ่มเติมได้นะคะ