อียิปต์ที่คิด (แต่ไม่) ถึง
: วิหารคาร์นัค

หากพูดถึงอียิปต์ “มัมมี่ ปิรามิด แม่น้ำไนล์ และทะเลทราย” คงเป็นสิ่งแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงและเป็นสิ่งที่เชื้อเชิญให้นักเดินทางทั่วโลกไปเยี่ยมเยือนแหล่งอารยธรรมโบราณล้ำค่าแห่งนี้

ความพิศวงและร่องรอยอารยธรรมแดนไอยคุปต์ยังคงปรากฎให้เห็นทั่วลุ่มแม่น้ำไนล์ ผ่านสิ่งก่อสร้างและซากปรักหักพัง ที่รอคอยให้ไปสำรวจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนยามฤดูหนาว

ไคโรห์เป็นเมืองหลวงของอียิปต์และเป็นที่ตั้งของปิรามิดแห่งกีชาอันโด่งดัง แต่ใช่ว่าเมืองอื่นๆ จะไม่มีแรงดึงดูดใดๆ

ห่างจากเมืองหลวงออกไป 600 กิโลเมตร บริเวณที่เรียกว่าอียิปต์บน คือ ลักซอร์ (Luxor) เมืองเก่าแก่ที่ได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาตร์

ในอดีตลักซอร์ คือ นครธีบส์ (Thebes) เมืองหลวงของอาณาจักรอียิปต์โบราณในช่วงราชวงศ์ที่ 11 – 21 ซึ่งเป็นเวลายาวนานกว่า 1,000 ปี และกลับมาเป็นเมืองหลวงอีกครั้งในระยะเวลาสั้นๆ ช่วงราชวงศ์ที่ 25 คำว่าธีบส์เป็นชื่อที่ชาวกรีกเรียก แต่ชาวอียิปต์โบราณเรียกนครแห่งนี้ว่า “วาเสต (Waset)”

วิหารคาร์นัค (Karnak Temple) เป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดแห่งของโลก และเป็นหนึ่งในที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ควรค่าแก่การไปชมยิ่ง

คำว่า “คาร์นัค” เป็นภาษาอาหรับที่มี “หมู่ป้อมปราการ” ซึ่งก็ไม่ได้เกินความจริง เนื่องจากบริเวณวิหารแห่งนี้รวบรวมสิ่งก่อสร้างไว้มากมาย

วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าอามุน (Amun) เทพเจ้าท้องถิ่นของธีบส์ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเทพของอาณาจักรฯ วิหารแห่งนี้เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอียิปต์โบราณ ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และการแกะสลัก ภายในมหาวิหาร จะมีวิหารหลัก 3 วิหารที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน คือ วิหารเทพอามุน (Amun) วิหารเทพีมารดา (Mut) และวิหารเทพแห่งสงคราม (Montu) สร้างโดยฟาโรห์เซซอสตริสที่ 1 (Sesostris I) ฟาโรห์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ที่ 12 ที่ทรงครองราชย์ระหว่างปี 1971 ถึง 1926 ก่อนคริสต์กาล

ภายในวิหารประกอบด้วย ซุ้มประตูทางเข้า เสาหินโอบิลิสก์ ห้องเสาหินขนาดใหญ่ใต้หลังคา รูปสลักหิน และวิหารต่างๆ การก่อสร้างและต่อเติม ดำเนินการต่อเนื่องกันมายาวนานกว่า 2,000 ปี ความยิ่งใหญ่ของวิหารคาร์นัค เห็นได้จากซุ้มประตูทางเข้าขนาดใหญ่หรือที่เรียกว่า ไพลอน (Pylon) ที่มีทั้งหมดถึง 10 แห่ง เพราะมีฟาโรห์หลายองค์สร้างต่อเนื่องกันมา ระหว่างซุ้มประตูทางเข้าที่ 2 และ 3 คือบริเวณห้องเสาหินใต้หลังคาที่มีชื่อเสียงของวิหารคาร์นัค สร้างขึ้นในสมัยฟาโรห์รามเสสที่ 2 ห้องเสาหินใต้หลังคานี้มีเสาหินขนาดใหญ่ 134 ต้น เพื่อรองรับโครงสร้างหลังคาแบบอียิปต์ บนยอดเสาหินเหล่านี้ทำเป็นรูปต้นปาปิรัส

วิหารคาร์นัคเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่งดงามที่สุดของอาณาจักรอียิปต์โบราณ ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมอียิปต์หลัง “ยุคพีระมิด” และเป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างจากหินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรแห่งนี้

ครั้งหน้าจะเป็นที่ไหนในอียิปต์ติดตามกันนะครับ แล้วไปชมวิหารแห่งนี้ด้วยตัวคุณเองด้วยกันนะครับ…