3 ขั้นตอนก่อนท่องเที่ยวในหน้าฝน

เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในช่วงฤดูฝนของไทย นอกจากฝนจะหนักในหลายพื้นที่แล้ว เมฆยังปกคลุมมืดครึ้มตั้งเค้าให้เราระแวงอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ปวดใจจนไม่เป็นอันท่องเที่ยวหรือทำธุระอะไรเลย

World Explorer จึงขอเสนอเคล็ดลับ 3 ขั้นตอนก่อนเดินทางที่เป็นตัวช่วยให้เราคลายกังวลกับสภาพอากาศ ไม่ว่าเดินทางใกล้ไกลก็ไว้ใจได้

2.เตรียมอุปกรณ์กันฝนและยาสามัญ

เมื่อต้องมาเจอกับเหตุการณ์ฝนตก และเราคงหลีกเหลี่ยงไม่ได้ สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้ คือ ร่ม แนะนำว่าควรมีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา

แต่หากใครไม่ชอบพกร่ม เสื้อกันฝนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีไม่แพ้กันเลย

และอย่าลืมให้ความสำคัญกับรองเท้า เราคงไม่อยากสะดุดลื่นล้มเป็นแน่แท้ ควรเลือกรองเท้าที่มีดอกยางช่วยยึดเกาะและถ้าคุณเลือกเป็นรองเท้าหุ้มส้น รองเท้าบูทก็เป็นตัวช่วยให้ไม่เฉอะแฉะระหว่างที่เราเดินทางท่องเที่ยวด้วยนะ

ที่ถือว่าสำคัญมากๆ อีกอย่างหนึ่งหากคุณเดินทางไกลก็คือ ยา เพราะหากเรารู้สึกไม่สบายขึ้นมาระหว่างทริปก็คงทำให้ทั้งตัวเราและเพื่อนร่วมทริปหมดสนุกไปด้วย เราจึงขอแนะนำให้คุณพกยาสามัญประจำบ้านติดตัวเพื่อความอุ่นใจ อาทิ ยาลดไข้ แก้ปวดหัว ยาแก้แพ้แก้หวัด เป็นต้น คุณสามารถแจ้งกับเภสัชกรขอคำแนะนำยาสามัญประจำบ้านได้อีกด้วย

สุดท้าย อีกสิ่งที่ควรเตรียม…เมื่อมีฝนก็ต้องมียุงและแมลง สเปรย์กันยุงและแมลง ถือว่าเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ทริปการท่องเที่ยวของเราไม่สะดุด มีให้เลือกทั้งแบบฉีดพ่น และครีมขนาดพกพาได้สะดวก

3. ตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมก่อนเดินทาง

เมื่อคุณต้องเดินทางด้วยรถยนต์ ก่อนที่จะออกเดินทางท่องเที่ยว คุณควรจะเช็กสภาพรถของคุณให้พร้อมก่อนที่จะต้องเดินทางช่วงหน้าฝน ยางรถยนต์ คือชิ้นส่วนที่มีความสำคัญลำดับต้นๆ ในการขับขี่ ช่วยเรื่องการเบรกและรีดน้ำในพื้นที่ๆมีน้ำขัง คุณควรตรวจเช็กความหนาของดอกยาง และเติมลมยางให้ความดันเพิ่มมากกว่าปกติสักหน่อย ช่วยเพิ่มแรงกดของหน้ายาง และช่วยให้ยางรถรีดน้ำได้ดีขึ้น

ไฟหน้ารถ โดยเฉพาะเวลาที่ฝนตกหนัก ไฟรถของคุณเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่จะพาคุณไปยังจุดมุ่งหมายได้อย่างปลอดภัย คุณควรตรวจเช็กไฟรถของคุณว่าส่องสว่างครบทุกดวงหรือไม่

ที่ปัดน้ำฝน ก่อนจะเริ่มเดินทาง เราขอให้คุณตรวจเช็กที่ปัดน้ำฝน ให้พร้อมก่อนการเดินทาง ให้คุณทำความสะอาดและ เช็กว่ามีน้ำฉีดล้างเพียงพอหรือไม่

แบตเตอรี่รถยนต์ ไม่เสี่ยงมีปัญหาระหว่างทาง ที่อาจทำให้ การเดินทาง กลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวได้ คุณควรเช็กว่า แบตเตอรี่พร้อมจ่ายไฟหรือไม่ อาการเบื้องต้นที่คุณสามารถลองเช็กเองได้โดยง่าย หากรถสตาร์ทติดยาก แต่ระบบไฟในรถยังคงใช้ได้ปกติ หรือ ระบบไฟในรถมีอาการผิดปกติ เช่น กระจกเปิดขึ้นลงได้ช้า ไฟหน้าไม่สว่างเท่าที่ควร แอร์ไม่เย็น มีอาการเครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น หรือระบบกันขโมยผิดปกติ ถือเป็นอาการแสดงออกของแบตเตอรี่เสื่อม ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อนนำรถไปใช้งาน

และหากคุณไม่มั่นใจ สามารถเลือกรับบริการกับศูนย์บริการมาตรฐานเพื่อตรวจเช็คสภาพรถของคุณ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้การเดินทางของคุณปลอดภัยที่สุด

บทความโดย คุณตุ้ย มุนินทร์รัตน์ กรรณภูติ Incentive Group Planner