หุบเขากาฐมาณฑุ (Kathmandu Valley) แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมในประเทศเนปาล

ในอดีตหุบเขาแห่งนี้เป็นชุมทางการค้าสำคัญที่ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าระหว่างธิเบตกับอินเดีย เป็นดินแดนของกษัตริย์แห่งราชวงศ์มัลละที่ปกครองดินแดนแถบนี้มายาวนานกว่า 800 ปี เป็นที่ตั้งของเมืองโบราณ 4 เมือง คือ กาฐมาณฑุ (Kathmandu), บัคตาปูร์ (Bhaktapur), ละลิตปูร์ (Lalitpur) และกีรติปูร์(Kirtipur)

ทำให้หุบเขาแห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลกแหล่งใหญ่ที่มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (World Heritage Site) มากถึง 7 แห่ง ประกอบด้วย

1. จัตุรัสกาฐมาณฑุ เดอบาร์ (Kathmandu Durbar Square)
2. พระเจดีย์พุทธนาถ (Boudhanath Stupa)
3. วัดปาสุปาตินาถ (Pashupatinath Temple)
4. วัดสวายัมภูนาถ (Swayambhunath Temple)
5. จัตุรัสบัคตาปูร์ เดอบาร์ (Bhaktapur Durbar Square)
6. วัดจังกูนารายัน (Changu Narayan Temple)
7. จัตุรัสปาทัน เดอบาร์ (Patan Durbar Square)

หุบเขามรดกโลกในหุบเขากาฐมาณฑุแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมของราชวงศ์มัลละที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ทั้งศิลปะทางด้านงานไม้ และด้านงานทองเหลือง

รวมทั้งวัฒนธรรมที่มีการผสมผสานของศาสนาพุทธมหายานและฮินดูเข้าด้วยอย่างลงตัว ทำให้หุบเขาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่น่าสนใจที่จะไปเยี่ยมเยือนเป็นอย่างยิ่ง


จัตุรัสกาฐมาณฑุ เดอบาร์ (Kathmandu Durbar Square) หน้าพระราชวังเก่าของอดีตราชอาณาจักรกาฐมาณฑุ เป็น 1 ใน 3 จัตุรัสดูร์บาร์ หรือจัตุรัสหลวงแห่งหุบเขากาฐมาณฑุ ซึ่งทั้งหมดเป็นมรดกโลกของยูเนสโก จัตุรัสกาฐมาณฑุ เดอบาร์ ถูกรายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและแสดงให้เห็นถึงทักษะของช่างฝีมืออันเก่าแก่ แต่อาคารหลายหลังในจัตุรัสแห่งนี้ทรุดตัวลงเนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว


พระเจดีย์พุทธนาถ (Boudhanath Stupa) เจดีย์ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าโบราณจากทิเบตซึ่งเข้าสู่หุบเขากาฐมาณฑุ เหล่าพ่อค้ามันจะหยุดพักและสวดอ้อนวอนที่นี่ จึงเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้ที่เดินทางผ่านไปมาหลายศตวรรษ เป็นหนึ่งในเจดีย์ฐานทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของกาฐมาณฑุอีกด้วย


วัดปาสุปาตินาถ (Pashupatinath Temple) เป็นวัดฮินดูที่มีชื่อเสียงและศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำพาคมตี (Bagmati River) และเป็นหนึ่งใน 275 วิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระอิศวร (Holy Abodes of Shiva)


วัดสวายัมภูนาถ (Swayambhunath Temple) เป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนาโบราณบนยอดเขาในหุบเขากาฐมาณฑุ ประกอบด้วย เจดีย์ ศาลเจ้า และวัดหลายแห่ง บนเจดีย์มีการวาดภาพดวงตาไว้ ซึ่งเปรียบเป็นดวงตาของพระพุทธเจ้า ชื่อภาษาทิเบตมีความหมายว่า ‘ต้นไม้อันประเสริฐ’ เพราะมีต้นไม้หลายชนิดที่พบบนเนินเขา สำหรับภาษาเนปาลหมายถึง ‘พรั่งพรูด้วยตนเอง’


จัตุรัสบัคตาปูร์ เดอบาร์ (Bhaktapur Durbar Square) ตั้งอยู่ในเมืองบัคตาปูร์ ทางตะวันออกของกาฐมาณฑุเป็น 1 ใน 3 จัตุรัสดูร์บาร์ หรือจัตุรัสหลวงแห่งหุบเขากาฐมาณฑุ ภายในพื้นที่ประกอบด้วยหมู่พระราชวังวิหารและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในศิลปะสกุลช่างเนทาวารีแท้เริ่มต้นที่ ประตูทองคำ (Sun Dhaka หรือGolden Gate) เป็นทางเข้านำไปสู่ลานของพระราชวังของกษัตริย์รานจิต มัลละ (King Ranjit Malla) เป็นประตูที่มีการแกะสลักงดงามและสมบูรณ์ที่สุดในโลก มีการประดับตกแต่งลวดลายของเหล่าเทพและอสูรต่างๆ ไว้อย่างประณีต


วัดจังกูนารายัน (Changu Narayan Temple) วัดฮินดูโบราณตั้งอยู่บนเนินเขาจังกู (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dolagiri) ล้อมรอบด้วยป่าต้นจำปา ถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเนปาล


จัตุรัสปาทัน เดอบาร์ (Patan Durbar Square) จัตุรัสปาทัน เดอบาร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองละลิตปูร์ (Lalitpur) เป็น 1 ใน 3 จัตุรัสหลวงในหุบเขากาฐมาณฑุ พื้นจัตุรัสปูด้วยอิฐสีแดง เป็นศูนย์กลางของทั้งศาสนาฮินดูและพุทธศาสนา มี 55 วัดที่สำคัญ มี 136 “บาฮาล”(ลาน) และสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจมากมาย


หุบเขามรดกโลกในหุบเขากาฐมาณฑุแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมของราชวงศ์มัลละที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ทั้งศิลปะทางด้านงานไม้ และด้านงานทองเหลือง รวมทั้งวัฒนธรรมที่มีการผสมผสานของศาสนาพุทธมหายานและฮินดูเข้าด้วยอย่างลงตัว ทำให้หุบเขาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่น่าสนใจที่จะไปเยี่ยมเยือนเป็นอย่างยิ่ง


แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโดย คุณอ้น วศิน ตันติเวชศักดิ์ Operation

อ้างอิง: https://en.wikipedia.org/wiki/Kathmandu_Valley

วันที่

22-06-2020

หมวดหมู่

, , , ,

เรื่องโดย

@worldexplorer