เมื่อพูดถึง คาซัคสถาน(Kazakhstan) เราหลายๆ คนคงนึกไม่ออกว่าประเทศนี้อ
แต่แท้จริงแล้วประเทศอดีตสม
เนื่องจากคาซัคสถานตั้งอยู่บริเวณรอยต่อทวีปยุโรปและเอเชีย ทำให้เกิดคำกล่าวโบราณว่า “ทิศตะวันตกอยู่ทางตะวันตก ทิศตะวันออกอยู่ทางตะวันออก และจะไม่มีวันอยู่ด้วยกันได้”
แต่ประธานาธิบดีนูร์ซุลตัน นาซาร์บาเยฟ (Nursultan Nazarbayev) ประธานาธิบดีคนแรกของคาซัคสถานไม่ได้คิดเช่นนั้น
เพราะนอกจากประเทศแห่งนี้จะเป็นรอยต่อของทวีปแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมในอดีต มีประชากรที่มาจากหลากหลายเชื้อชาติ ตั้งแต่คาซัค รัสเซีย ยูเครน เยอรมัน อุซเบก ตาตาร์ ไปจนถึงเกาหลี
เขาจึงเห็นความสำคัญของการผสมผสานความหลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน
นาซาร์บาเยฟได้ย้ายเมืองหลวงจากอัลมาตีที่มีข้อจำกัดในการพัฒนา มายังอักโมลาในปี 1997 แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นอัสตานา (และพึ่งเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น นูร์-ซุลตัน ในปี 2019 นี้ เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีนาซาร์บาเยฟนั่นเอง) สร้างให้เป็นเมืองที่มีแนวคิดทางสถาปัตยกรรมที่มีมุมมองของทั้งยุโรปและเอเชียร่วมกัน
โดยให้สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น คิโชะ คุโระกะวะ (Kisho Kurokawa) เป็นผู้วางผังเมืองที่ทันสมัยและมีกลิ่นอายความเป็นตะวันออก เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามตามแบบยูเรเชีย ผสมผสานกับอาคารที่มีเอกลักษณ์ของ นอร์แมน ฟอสเตอร์ (Norman Foster) สถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษ
เพื่อให้เมืองนี้มีความโดดเด่น สง่างาม สาธารณูปโภคที่ครบครัน และสามารถพัฒนาสู่การเป็นเมืองทรงอิธิพลของโลก โดยมีเป้าหมายที่จะเทียบเคียงกับโตเกียว นิวยอร์ก และดูไบ ได้ในอนาคต
จากการพัฒนาอันก้าวกระโดดและรวมความแตกต่างไว้ได้อย่างลงตัว ทำให้นูร์-ซุลตัน เมืองที่ใหญ่อันดับ 2 ของคาซัคสถาน แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น “Another Wonder of The World” สิงมหัสจรรย์แห่งตะวันออกกลาง และได้รับรางวัล “City of Peace” เมืองแห่งสันติภาพ จาก UNESCO
เราจึงอยากเชิญชวนท่านไปสัมผัสสถาปัตยกรรมอันหลากหลายที่มีทั้งความล้ำหน้า และประวัติศาสตร์อันทรงเสนห์ของประเทศคาซัคสถาน ในเมืองนี้….
….นูร์-ซุลตัน เมืองแห่งอนาคต
ข่านชาตึยร์ตามความหมายในภา
รูปทรงของอาคารเต็นท์โปร่งใ
ภายในพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยสวนสาธารณะพร้อมล
อาคารทรงกระบอกที่มียอดเป็น
ความสูงจากพื้นของอาคาร 97 เมตร สื่อถึงปี ค.ศ.1997 ซึ่งเป็นปีที่กรุงอัสตานากล
ภายในอาคาร ประกอบด้วยแกลเลอรี่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ํา ร้านอาหาร จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทั
อาคารกระจกทรงปิรามิด สูง 62 เมตรมีฐาน 62 x 62 เมตร ฝีมือการออกแบบของสถาปนิกชื
สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานท
และเคยเป็นที่จัดเทศกาลภาพย
นอกจากส่วนจัดงานแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ
มัสยิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใ
โดยชื่อของมัสยิดหมายถึง “สุลต่านศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งเป็นสมญานามของศาสนาจาร
อาคารขนาด มหึมานี้ต้องใช้แรงงานถึง 1,500 คนตลอดระยะเวลาการก่อสร้าง 3 ปี อาคารมีพื้นที่กว่า 110,000 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยหินอ่อนและลวดลาย
นับเป็นมัสยิดที่งดงามอีกแห
สถานที่ท่องเที่ยวสําคัญอัน
อัสตามได้สร้างทุ่มทุนสร้าง
อาคารทรงกลม 8 ชั้นแห่งนี้ใช้งบประมาณในกา
ในบริเวณเดียวกัน ก็ยังมี “เมกะ ซิลค์เวย์” (Mega Silk Way) ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่สุดใน
สถานที่พํานักของประธานาธิบ
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะมีการประดับประดาดอกไม้ใน
เป็นพิพิธภัณฑ์น้องใหม่ เพิ่งเปิดไปเมื่อปี 2014
ภายในแบ่งห้องจัดแสดงเป็น 7 ห้องใหญ่ ไล่ตั้งแต่ห้องประวัติศาสตร
การมาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี